วิธีจัดทำแผนฉุกเฉิน หลักการและขั้นตอนการทำแผนปฏิบัติแบบมืออาชีพ

เหตุฉุกเฉิน

หลักการและขั้นตอน การทำแผนฉุกเฉินแบบมืออาชีพ

จากบทความที่แล้วที่ได้กล่าวถึงการจัดการภาวะวิกฤตไป ในบทความนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจอีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญไม่แพ้กันในโลกปัจจุบันที่มักเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นั่นก็คือแผนฉุกเฉิน (Emergency Plan) และการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน (Emergency Response) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มักใช้ร่วมกันกับแผนดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง (BCP) และการจัดการภาวะวิกฤต (Crisis Management) เพื่อรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายต่างๆที่อาจทำให้องค์กรหยุดชะงัก

แผนฉุกเฉิน คืออะไร?

แผนฉุกเฉิน (Emergency Plan) คือแผนที่จัดทำขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม ตอบสนอง และฟื้นฟูจากเหตุฉุกเฉิน โดยไม่เน้นที่สาเหตุของเหตุการณ์ แต่เน้นที่ผลกระทบและการจัดการผลกระทบเหล่านั้น ในขณะที่เหตุฉุกเฉิน (Emergency) หมายถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งสามารถก่อให้เกิดการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บรุนแรงต่อพนักงาน ลูกค้า หรือประชาชนทั่วไปท หรือเหตุการณ์ที่อาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดดำเนินการ ก่อให้เกิดความเสียหายทางกายภาพ สิ่งแวดล้อม หรือเป็นภัยคุกคามต่อสถานะทางการเงินและภาพลักษณ์ขององค์กร (นิยามโดย FEMA)

การจัดการเหตุฉุกเฉิน การจัดการภาวะวิกฤต และแผนฉุกเฉิน เกี่ยวกันอย่างไร?

หลายๆองค์กรอาจมีความสับสนระหว่างการจัดการภาวะวิกฤต (Crisis management) และการจัดการเหตุฉุกเฉิน (Emergency management) หรือแม้กระทั่งแผนฉุกเฉิน (Emergency plan) ว่ามีความแตกต่างกันหรือมีความสัมพันธ์กันอย่างไร? เราจึงสรุปความสัมพันธ์ของ 3 แนวคิดนี้ไว้ด้านล่าง

different

ยกตัวอย่างง่ายๆสำหรับกรณีบริษัทผลิต airbag รถยนต์ที่เคยมีปัญหาจากการออกแบบทำให้ airbag เมื่อทำงานแล้วทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่ ทำให้เกิด product recall กับรถยนต์ที่มีการติดตั้ง airbag รุ่นนี้จำนวนมหาศาล นอกจากองค์กรต้องจัดการเหตุฉุกเฉิน (emergency management) ด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก airbag แก่ผู้ขับขี่แล้วยังเจอวิกฤต (crisis management) ความน่าเชื่อด้านชื่อเสียงแบรนด์และประเด็นด้านการฝ่าฝืนข้อกฏหมายอีกด้วย

วัตถุประสงค์ ในการเตรียมแผนฉุกเฉิน

วัตถุประสงค์ของการจัดทำแผนฉุกเฉิน (Emergency Plan) มีประโยชน์หลายประการ โดยสามารถสรุปได้ดังนี้:

1. ลดผลกระทบจากเหตุฉุกเฉิน

เพื่อจำกัดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดระยะเวลาในการฟื้นฟูเพื่อกลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว

2. สร้างความพร้อมในการตอบสนอง

เตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมและเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ วางระบบการสื่อสารและประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

3. ป้องกันความสับสนและความตื่นตระหนก

ลดความเครียดและความผิดพลาดในการตัดสินใจจากการมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

4. รักษาความต่อเนื่องขององค์กร (Business Continuity)

ทำให้องค์กรสามารถป้องกันเหตุหยุดชะงักและฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

แผนฉุกเฉิน ประกอบด้วยอะไรบ้าง

แผนฉุกเฉินในมุมของการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ องค์กรควรกำหนดและจัดเตรียมทรัพยากรที่จำเป็นในการพัฒนาและดูแลแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ เช่น เวลา บุคลากร และงบประมาณ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามนโยบายและเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแผนจะถูกจัดทำเป็นเอกสารที่ชัดเจนสำหรับแต่ละทีม

  • แผนระดับกลยุทธ์ (Strategic Plan): จัดการทิศทางองค์กรในภาวะวิกฤต โดยทีมผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบ
  • แผนระดับยุทธศาสตร์ (Tactical Plan): ประสานงานระหว่างหลายหน่วยงานเพื่อให้การดำเนินงานต่อเนื่อง
  • แผนระดับปฏิบัติการ (Operational Plan): มุ่งเน้นการตอบสนองทันที เช่น แผนฉุกเฉินไฟไหม้ แผนฉุกเฉินกรณีไฟฟ้าดับในโรงงาน หรือแผนฉุกเฉินแผ่นดินไหว
แผนฉุกเฉินบริษัท ตัวอย่าง

วิธีเขียนแผนฉุกเฉิน ทำอย่างไร

ตามมาตรฐาน ISO22332 แนวทางในการพัฒนาแผนฉุกเฉินและขั้นตอนสำหรับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ควรมีสิ่งต่อไปนี้

แผนที่ชัดเจน

แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจเป็นเอกสารที่ใช้ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันสูงและเวลาจำกัด ดังนั้นแผนไม่ควรเป็นคู่มือหรือรายงานที่มีข้อมูลเกินความจำเป็น โดยควรหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรับมือเหตุฉุกเฉิน และควรจัดทำให้แผนมีความครบถ้วนในตัวเองมากที่สุด เพื่อลดการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลภายนอก ทั้งนี้ควรให้สมาชิกในทีมมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดูแลแผน เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างชัดเจน

แผนที่เข้าใจง่าย

เนื้อหาในแผนควรมีความกระชับในการใช้ถ้อยคำและเข้าใจง่าย โดยหลีกเลี่ยงการใช้ตัวย่อ และควรระบุอย่างชัดเจนว่าใครต้องทำอะไร เมื่อใด และอย่างไร

แผนที่ครบถ้วน

เนื้อหาในแผนฉุกเฉินควรอ้างอิงจากกลยุทธ์ที่องค์กรเลือกใช้ ควรเสนอทางเลือกหลายรูปแบบ (ถ้ามี) เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างยืดหยุ่นตามสถานการณ์ และควรมีรายละเอียดในขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อลดความเข้าใจผิด แต่ไม่ควรลงรายละเอียดมากเกินไปจนทำให้ใช้งานยาก

ภาวะฉุกเฉิน คือ

6 ขั้นตอน เขียนแผนฉุกเฉิน

สรุปขั้นตอนการวางแผนและทำแผนฉุกเฉิน 6 ขั้นตอนง่ายๆตามภาพด้านล่าง

แผนฉุกเฉิน

เตรียมพร้อมทุกวิกฤต 6 ตัวอย่างแผนฉุกเฉินสำคัญ

องค์กรสามารถจัดทำเอกสารแนวทางในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ โดยอาจรวมถึงขั้นตอนในการลดผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น และมีการอธิบายอย่างชัดเจนว่า กลยุทธ์ แนวทางแก้ไข และทรัพยากรจะถูกนำมาใช้ได้อย่างไรหากเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง มีหลายกรณีที่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์หยุดชะงักได้ล่วงหน้า มาดู 6 ตัวอย่างวิกฤตและข้อควรพิจารณาในแผนฉุกเฉินแต่ละเหตุการณ์ โดยอ้างอิงจากหลากหลายมาตรฐาน

emergency

กฏกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัน และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 กำหนดให้นายจ้างจัดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยที่ประกอบด้วย

การตรวจตรา เพื่อสำรวจความเสี่ยงและเฝ้าระวังเพื่อกำจัดต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้

แผนการอบรม เป็นการให้ความรู้กับพนักงานทั้งในเชิงป้องกันและการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ

แผนการรณรงค์ป้องกันอัคคีภัย เป็นการเสริมสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในทุกระดับของพนักงาน

แผนการดับเพลิง แสดงลำดับขั้นตอนของการปฏิบัติเมื่อพนักงานพบเหตุเพลิงไหม้

แผนอพยพหนีไฟ กำหนดเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานและสถานประกอบการ รวมถึง หน่วยตรวจสอบจำนวนพนักงาน ผู้นำทางหนีไฟ จุดนัดพบ ยานพาหนะ

แผนการบรรเทาทุกข์ เช่น การประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ การสำรวจความเสียหาย การช่วยชีวิตและเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย การประเมินความเสียหายและปรับปรุงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้โดยเร็วที่สุด

แผนรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ตามมาตรฐาน ISO22332 ควรสอดคล้องกับกลยุทธ์การตอบสนองด้านความมั่นคงของข้อมูลโดยรวม โดยแผนควรรวมถึงขั้นตอนที่จะมีรายละเอียดเบื้องต้น ดังนี้

ระบุประเภท ขอบเขต และผลกระทบของการโจมตีทางไซเบอร์

ระบุการดำเนินการเร่งด่วนเพื่อควบคุมการโจมตี

การตอบสนองต่อการเรียกร้องค่าไถ่จาก Ransomware

การตอบสนองต่อเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล

การจัดเตรียมวิธีการทำงานสำรองที่ไม่ต้องพึ่งพาการใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่นหรือเครือข่าย

จากคู่มือรองรับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ภาวะที่กระแสไฟฟ้ามีความขัดข้องจนทำให้อุปกรณ์ เครื่องที่ใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานต่าง ๆ ไม่สามารถทำงานได้ การติดตามและศึกษาเหตุการณ์ที่เคยเกิดในอดีต เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนรับมือได้

วิเคราะห์ ประเมินความเสี่ยง โอกาสในการเกิด และผลกระทบที่ได้รับ

จัดตั้งคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานงานและดำเนินการรองรับภาวะฉุกเฉิน

สิ่งที่ควรพิจารณาตามมาตรฐาน ISO22332 สำหรับการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง

การรายงานข่าวจากสื่อเกี่ยวกับภัยคุกคามจากโรคระบาดใหญ่(Pandemic)/โรคระบาด (Epidemic)

หลักฐานการระบาดของโรคในชุมชนหรือภูมิภาค

การประกาศจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐบาล

ความเป็นไปได้ในการสัมผัสโดยตรงกับโรค

ความสามารถในการถ่ายโอน ย้ายงานไปยังพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ

การสนับสนุนพนักงานและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ

การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)

จากมาตรฐานของ OSHA (Occupational Safety and Health Administration) แผนปฏิบัติสำหรับพนักงานเบื้องต้น พิจารณาในหัวข้อดังนี้

ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว

หาที่ปลอดภัย เช่น ใต้โต๊ะที่แข็งแรง หรือใกล้ผนังด้านที่ไม่มีหน้าต่างเพราะกระจกอาจแตกใส่ได้

เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง สิ่งของอาจตกหล่นหรือแตกหักได้

เตรียมพร้อมรับแรงสั่นสะเทือนตามมา (Aftershocks) ซึ่งอาจเกิดได้อีก

ระวังไฟไหม้

ไฟไหม้ เป็นอันตรายที่พบได้บ่อยหลังแผ่นดินไหว เนื่องจากสายไฟอาจเสียหาย ท่อแก๊สแตก

หากได้กลิ่นแก๊สหรือเห็นควันไฟ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่และอพยพออกจากพื้นที่ทันที

การอพยพออกจากอาคาร

หากจำเป็นต้องออกจากอาคาร ให้ใช้บันไดเท่านั้น ห้ามใช้ลิฟต์

ระวังเศษวัสดุที่อาจตกลงมาระหว่างอพยพ

ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้และหัวฉีดน้ำอัตโนมัติ (Sprinkler system) อาจทำงานอัตโนมัติ เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าไม่มีไฟไหม้จริง

ตัวอย่างแนวทางพิจารณาแผนอุทกภัยในโรงงานอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ความรุนแรงของน้ำท่วมขึ้นอยู่กับจํานวนของตัวแปรต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ความลึกของน้ำ, ระยะเวลาของการท่วม, ความเร็วในการไหลของน้ำ, อัตราการสูงขึ้นของระดับน้ำในแมน้ำ, ความถี่ของการเกิดน้ำท่วม และระยะเวลาการตกของฝน การป้องกันน้ำท่วมที่ได้ผลจะช่วยลดการซ่อมแซมแก้ไขต่าง ๆ ของอาคาร บ้านเรือนหลังน้ำท่วม

พิจารณาจุดอ่อนของอาคารขึ้นอยู่กับลักษณะของอาคารชนิดต่างๆ รวมถึงความต้านทานต่อแรงดันน้ำ

การใช้ถุงทราย ทำแผงกั้นน้ำเพื่ออุดฐานรากและป้องกันน้ำเข้าพื้นที่ในเบื้องต้น

หากภาชนะบรรจุสารเคมีมีการชำรุดหรือหกรั่วไหล ให้ดำเนินการระงับเหตุตามข้อแนะนำในเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (Safety Data Sheet) และฉลากที่ติดอยู่ข้างภาชนะ

ย้ายเครื่องจักรและเครื่องมือ อุปกรณ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ไปไว้ในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง หากเครื่องจักรหรือภาชนะรับแรงดันไม่สามารถย้ายได้ ให้พยายามกั้นน้ำไม่ให้เข้าสู่เครื่องจักร

จัดให้มีเครื่องสูบน้ำเพื่อใช้สูบน้ำออกระหว่างน้ำท่วม

Download ฟรี ตัวอย่าง PDF แนวทางในการทำแผนฉุกเฉิน จากอินเตอร์ริสค์

การมีแผนฉุกเฉินที่ชัดเจนและเป็นระบบจะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้วยแผนฉุกเฉินบริษัท ตัวอย่างแนวทางจากทางเรา ดาว์นโหลดตัวอย่างได้ที่ด้านล่างนี้

ทำแผนฉุกเฉิน ปรึกษาเริ่มต้นฟรี! กับ INTERRISK ASIA

ยกระดับความต่อเนื่องทางธุรกิจด้วยระบบ BCMS กับ InterRisk Asia

ความเข้าใจแนวคิดของการจัดการและการจัดทำแผนฉุกเฉินตามหลักการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน และสำรวจหลักการและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บทความนี้ไม่สามารถใส่รายละเอียดทั้งหมดจากมาตรฐานได้เพื่อไม่ให้บทความนั้นยาวเกินไป ในโลกปัจจุบันที่อุบัติการณ์และความเสี่ยงต่างๆที่เกิดกับองค์กรมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ การทำแผนฉุกเฉินโดยปราศจากการทบทวนหรือซ้อมแผน ทั้งจากภายในและภายนอก อาจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่อความยั่งยืนขององค์กร หากท่านสนใจทำแผนฉุกเฉิน ทบทวน หรือซ้อมแผนฉุกเฉิน ติดต่อทีมที่ปรึกษาของ InterRisk วันนี้เพื่อรับคำปรึกษาเบื้องต้นฟรี!

InterRisk Asia (Thailand) เราเป็นบริษัทให้บริการด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis), การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment), การจัดทำแผน Business Continuity Plan ไปจนถึงการฝึกอบรม ฝึกซ้อมและให้คำปรึกษาตามมาตรฐาน ISO 22301 เพื่อให้องค์กรพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ในทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

บริการของเรา
Business Continuity Consulting
การให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาระบบ BCM ผ่านรูปแบบการดำเนินงานแบบครบวงจร พร้อมต่อยอดสู่มาตรฐาน ISO 22301
Business Continuity Training
การฝึกอบรมแบบปรับแต่งเฉพาะสำหรับผู้บริหารและพนักงานเพื่อสร้างความตระหนักรู้และพัฒนาทักษะด้าน BCMS
Business Impact Analysis
การวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบจากการหยุดชะงัก เพื่อวางแผนกลยุทธ์สำหรับการจัดทำแผน BCP
Business Continuity Plan Exercise
การซ้อมแผน BCP เพื่อทดสอบและพัฒนาความพร้อมและการตอบสนองขององค์กร
Business Continuity Assessment
การประเมินประสิทธิภาพของ BCM ด้วยการวิเคราะห์อย่างละเอียด พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง
เหตุผลที่เลือกเรา

ทีมที่ปรึกษามีประสบการณ์ด้าน BCMS โดยตรง

การออกแบบแผนที่ปรับตามบริบทของแต่ละธุรกิจ

โซลูชันที่ใช้ได้จริง ครบวงจร และพร้อมดำเนินการ

ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นใจ หรือธุรกิจ SMEs ที่ต้องการวางรากฐาน InterRisk พร้อมช่วยคุณสร้างแผน BCP ที่ครบวงจร เพื่อ Turning Risks To Resilience ไปด้วยกัน

แชร์

Let us help you ensure business continuity

Talk to InterRisk and take the first step toward a safer, risk-free business