Supply Chain Risk Management คือ กลยุทธ์เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

Supply Chain Risk Management คืออะไร

ในโลกธุรกิจปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขนส่ง วัตถุดิบขาดแคลน ภัยธรรมชาติ หรือความผันผวนทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้การผลิตและการส่งมอบสินค้าหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อรายได้และความเชื่อมั่นของลูกค้า นี่คือเหตุผลที่ Supply Chain Risk Management (SCRM) หรือการบริหารความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ หากคุณต้องการเริ่มต้นเข้าใจความเสี่ยงในระบบของคุณเอง การเริ่มต้นจาก การประเมินความเสี่ยง จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง

Supply Chain Risk Management คืออะไร

Supply Chain Risk Management คือกระบวนการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานที่อาจเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำ (Suppliers) ไปจนถึงปลายน้ำ (ลูกค้า) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และรักษาการดำเนินงานให้ต่อเนื่อง ซึ่งการบริหารความเสี่ยงนี้ไม่ได้หมายถึงการ “หลีกเลี่ยง” ความเสี่ยงทั้งหมด แต่เป็นการเตรียมพร้อมรับมือและสร้างแผนสำรอง เพื่อให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินการได้แม้ในสถานการณ์วิกฤต

ความเสี่ยงซัพพลายเชนที่ธุรกิจต้องรู้ มีอะไรบ้าง

Supply Chain Risk คือ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานที่ประกอบด้วยหลายชั้นตอนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งในแต่ละขั้นตอนมีโอกาสส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องของธุรกิจ หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อาจนำไปสู่การหยุดชะงัก และเกิดความเสียหายต่อองค์กร ดังนั้น การเข้าใจ Supply Chain Risk เป็นก้าวแรกที่สำคัญและเป็นขั้นตอนแรกของการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงในซัพพลายเชนสามารถแบ่งได้ดังนี้

ความเสี่ยงซัพพลายเชน

Supply Chain Risk Management มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

การบริหารความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานไม่ใช่เพียงเรื่องของการลดความเสียหายเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจได้ในระยะยาว โดยมีความสำคัญต่อธุรกิจดังนี้

ลดความเสี่ยงการหยุดชะงักของสายการผลิต

การหยุดผลิตแม้เพียงสั้น ๆ อาจสร้างความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียงอย่างรุนแรง การมีระบบจัดการความเสี่ยงและแผนรับมือช่วยระบุจุดอ่อนและมีแผนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้แม้มีเหตุขัดข้อง

รักษาฐานลูกค้าให้พึงพอใจ

ลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังการส่งมอบสินค้าที่ตรงเวลาและมีคุณภาพสม่ำเสมอ หากเกิดความล่าช้าหรือคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจจะทำให้ความเชื่อมั่นลดลง การจัดการความเสี่ยงนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสในการสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

ธุรกิจที่สามารถรับมือและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้เร็วจะมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง การวิเคราะห์และเตรียมความพร้อมทำให้สามารถปรับแผนการดำเนินงานได้ทันสถานการณ์

ลดต้นทุน สร้างผลตอบแทนระยะยาว

แม้การลงทุนในระบบบริหารความเสี่ยงอาจมีค่าใช้จ่ายในระยะแรก แต่ในระยะยาวจะช่วยลดความสูญเสียและค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ พร้อมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรในการดำเนินการอีกด้วย

สร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดคู่ค้าที่ยั่งยืน

การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ จะทำให้คู่ค้าที่มั่นใจในความสามารถของคุณในการจัดการความเสี่ยง จะพร้อมร่วมงานและลงทุนในความสัมพันธ์ระยะยาว

Supply Chain Risk Management มีแนวทางอย่างไรบ้าง

แนวทางการทำ supply chain risk management

Supply Chain Risk Management เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่การระบุความเสี่ยง ประเมินผลกระทบ (BIA) จนถึงการกำหนดมาตรการเพื่อลดและควบคุมความเสี่ยง โดยทั่วไปสามารถแบ่งแนวทางหลัก ๆ ได้ดังนี้

การบริหารความเสี่ยงการดำเนินงาน (Operational Risks)

ความเสี่ยงประเภทนี้เกิดจากปัญหาภายในองค์กร เช่น เครื่องจักรขัดข้อง การขาดแคลนแรงงาน หรือระบบ IT ล่ม แนวทางป้องกันและลดผลกระทบ ได้แก่

  • จัดทำแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
  • มีเครื่องจักรสำรองหรือแผนการผลิตจากโรงงานอื่น
  • ใช้ระบบติดตามการผลิตและ Supply Chain แบบเรียลไทม์

 

ครอบคลุมปัจจัยจากต่างประเทศ เช่น ความผันผวนทางการเมือง การค้า หรือกฎหมายในประเทศคู่ค้า แนวทางการจัดการ เช่น

  • กระจายแหล่งซัพพลายเออร์ในหลายภูมิภาคเพื่อลดการพึ่งพา
  • ติดตามข่าวสารและวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและภาษี
  • วางแผนเส้นทางและวิธีการขนส่งสำรอง

 

เกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ราคาวัตถุดิบผันผวน หรืออัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลง แนวทางรับมือ เช่น

  • ทำสัญญาซื้อขายวัตถุดิบระยะยาวเพื่อลดความเสี่ยงจากราคาที่ไม่แน่นอน
  • จัดตั้งงบสำรองเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
  • วิเคราะห์ต้นทุนและหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

ครอบคลุมเหตุการณ์อย่างน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ หรือไฟป่า ซึ่งอาจทำให้การขนส่งและการผลิตหยุดชะงัก แนวทางป้องกัน เช่น

  • วางแผนเส้นทางโลจิสติกส์สำรอง
  • จัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ครอบคลุมเหตุภัยพิบัติ
  • ทำประกันภัยครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

ปรึกษา Supply Chain Risk Management กับ InterRisk Asia

ที่ InterRisk เรามีทีมที่เชี่ยวชาญด้านการประเมินและบริหารความเสี่ยงซัพพลายเชน โดยใช้แนวทางแบบบูรณาการ ตั้งแต่การวิเคราะห์กระบวนการ การตรวจสอบความพร้อมของซัพพลายเออร์ ไปจนถึงการออกแบบแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) หากคุณต้องการยกระดับความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ติดต่อ InterRisk เพื่อเริ่มการประเมินความเสี่ยงและวางแผนจัดการอย่างมืออาชีพ แล้วคุณจะมั่นใจได้ว่า “แม้จะเกิดวิกฤต องค์กรของคุณก็จะไม่สะดุด”

InterRisk เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย ภายใต้เครือ MS&AD จากประเทศญี่ปุ่น

บริการของเรา
เหตุผลที่เลือกเรา

ทีมที่ปรึกษามีประสบการณ์ด้าน BCMS โดยตรง

การออกแบบแผนที่ปรับตามบริบทของแต่ละธุรกิจ

โซลูชันที่ใช้ได้จริง ครบวงจร และพร้อมดำเนินการ

ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นใจ หรือธุรกิจ SMEs ที่ต้องการวางรากฐาน InterRisk พร้อมช่วยคุณสร้างแผน BCP ที่ครบวงจร เพื่อ Turning Risks To Resilience ไปด้วยกัน

แชร์

Let us help you ensure business continuity

Talk to InterRisk and take the first step toward a safer, risk-free business