MTPD คืออะไร? ปัจจัยสำคัญในการวางแผน BCP ที่ธุรกิจต้องเข้าใจ

MTPD

ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ เหตุขัดข้องของระบบ Cyber Security ไฟไหม้ หรือวิกฤติทางเศรษฐกิจ สิ่งหนึ่งที่องค์กรไม่สามารถละเลยได้คือ “การเตรียมความพร้อม” เพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อได้แม้เกิดเหตุไม่คาดคิด

แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan (BCP) จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทุกองค์กรควรมี แต่ก่อนจะวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดหลักอย่าง “MTPD” Maximum Tolerable Period of Disruption หรือที่อาจเรียกว่า Maximum Tolerable Downtime หรือ Maximum Tolerance Outage ซึ่งหมายถึง “ระยะเวลาสูงสุดที่ธุรกิจสามารถหยุดชะงักได้โดยไม่กระทบต่อการอยู่รอดขององค์กร”

การเข้าใจ MTPD อย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้คุณออกแบบแผน BCP ได้ตรงจุด แต่ยังช่วยให้การดำเนินงานภายใต้ระบบ Business Continuity Management System (BCMS) มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น ISO 22301 อีกด้วย

HIGHLIGHTS:

  • MTPD คือ ระยะเวลาสูงสุดที่องค์กรสามารถยอมรับการหยุดชะงักได้ (Maximum Tolerable Downtime)
  • RTO ต้องสั้นกว่า MTPD เพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัวก่อนถึงจุดวิกฤติ
  • MTPD มาจากการวิเคราะห์ BIA และการประเมินความเสี่ยง
  • การเข้าใจ MTPD ช่วยให้องค์กรบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

 

MTPD คืออะไร

MTPD คืออะไร

Maximum Tolerable Period of Disruption (MTPD) หมายถึง “ระยะเวลาสูงสุดที่องค์กรสามารถยอมรับได้ เมื่อกระบวนการสำคัญหยุดชะงักโดยไม่กระทบต่อธุรกิจอย่างรุนแรงหรือถาวร”

กล่าวอีกอย่างคือ ถ้าองค์กรต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว ค่า MTPD จะช่วยตอบว่า “หยุดได้นานแค่ไหน” ก่อนที่ผลกระทบจะรุนแรงจนยากจะแก้ไข เช่น สูญเสียรายได้ สูญเสียลูกค้า หรือถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย

ในการวางแผน BCP ค่า MTPD มักถูกใช้ควบคู่กับ Recovery Time Objective หรือ RTO คือ “เวลาที่องค์กรตั้งเป้าว่าจะต้องกู้คืนระบบ หรือกระบวนการให้กลับมาทำงานได้” โดยมีหลักสำคัญคือ RTO สามารถจะมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ MTPD ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว RTO ต้องสั้นกว่า MTPD เสมอ เพื่อให้ธุรกิจกลับมาทำงานก่อนถึงจุดที่ส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดขององค์กร

ความสำคัญของ MTPD in BCP คืออะไร

ความสำคัญของ MTPD in BCP

MTPD in Business Continuity คือ การกำหนด MTPD เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการวางแผน BCP ดังนี้

  • ระบุและจัดลำดับความสำคัญของกระบวนการหลัก (Critical Activities) ได้ชัดเจน
  • ออกแบบกลยุทธ์การกู้คืน (Recovery Strategy) ที่เหมาะสมกับแต่ละระบบ เช่น Incident Response หรือ Crisis Management
  • บริหารทรัพยากรและงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ลงทุนเกินความจำเป็น
  • สร้างกรอบเวลาสำหรับการซ้อมแผน BCP (BCP Exercise) เพื่อประเมินความพร้อมขององค์กรจริง

 

ตัวอย่างเช่น ในโรงงานการผลิต MTPD คือระยะเวลาสูงสุดที่สายการผลิตหยุดได้ก่อนกระทบต่อคุณภาพ หรือการส่งมอบสินค้า โดยแต่ละกระบวนการจะมี MTPD ต่างกัน เช่น การผลิตอาจหยุดได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่วนงานสนับสนุนอาจหยุดได้เป็นวัน การกำหนด MTPD อย่างเหมาะสมช่วยให้โรงงานวางแผน BCP และบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างของ MTPD VS. RTO

เมื่อองค์กรต้องวางแผน BCP สิ่งสำคัญคือ การรู้ว่า “ธุรกิจของเราจะหยุดได้นานแค่ไหน” และ “จะต้องกลับมาทำงานภายในกี่ชั่วโมง” ซึ่งสองสิ่งสำคัญนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ MTPD และ RTO

ทั้ง MTPD และ RTO มักถูกพูดถึงควบคู่กันเสมอ แต่มีความหมายและบทบาทแตกต่างกันอย่างชัดเจน การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้วางแผนรับมือเหตุหยุดชะงักได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และจัดลำดับการฟื้นฟูระบบอย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่าง

MTPD

(Maximum Tolerable Period of Disruption)

RTO

(Recovery Time Objective)

คำจัดกัดความ

ระยะเวลาสูงสุดที่องค์กรสามารถยอมรับการหยุดชะงักได้โดยไม่เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจ

ระยะเวลาที่องค์กรตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกู้คืนกระบวนการหรือระบบให้กลับมาทำงานได้

เป้าหมาย

ใช้กำหนด “ขีดจำกัดสูงสุด” ของการหยุดชะงัก

ใช้กำหนด “เป้าหมายการฟื้นฟู” เพื่อให้กลับมาทำงานก่อนถึงจุดวิกฤติ

ลักษณะการใช้ในแผน BCP

มาจากการวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (BIA) เพื่อดูว่าสูญเสียได้แค่ไหน

มาจากการวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (BIA) หรือการวางแผนกู้คืนระบบ (DRP) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนด

ความสัมพันธ์ระหว่างกัน

เป็นขอบเขตสูงสุดที่ธุรกิจทนได้

ควรสั้นกว่า MTPD เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานทันก่อนเกิดผลกระทบจริง

ตัวอย่าง

โรงงานผลิตมี MTPD เป็น 8 ชั่วโมง หมายถึง สายการผลิตหยุดได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง

ตั้ง RTO ไว้ที่ 4 ชั่วโมง หมายถึง ต้องฟื้นฟูกระบวนการผลิตให้กลับมาทำงานได้ภายใน 4 ชั่วโมง

MTPD คือ “ระยะเวลาที่ธุรกิจทนได้” ส่วน RTO คือ “เวลาที่ต้องฟื้นให้ได้” เพื่อป้องกันผลกระทบทางธุรกิจไม่ให้ลุกลามเกินควบคุม

คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)

MTPD คืออะไร แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าขององค์กรเราคือเท่าไหร่

ต้องเริ่มจากการทำการประเมินความเสี่ยง และ Business Impact Analysis (BIA) เพื่อดูว่าถ้ากระบวนการหยุดไป จะกระทบต่อรายได้ ลูกค้า หรือกฎหมายมากแค่ไหน หากไม่รู้วิธีการหาค่า MTPD หรือจัดทำ BIA สามารถเรียนรู้ได้จากคอร์สอบรม BCP โดย InterRisk ได้

ไม่ควรใช้ค่ากลาง เพราะแต่ละระบบมีความสำคัญต่างกัน เช่น ฝ่ายผลิตกับฝ่ายบัญชีมีผลกระทบไม่เท่ากัน

ตั้งอยู่บนหลัก “สมดุลระหว่างความเสี่ยงกับต้นทุน” โดยอ้างอิงข้อมูลจาก BIA และการประเมินความเสี่ยง

MTPD คือขีดจำกัดสูงสุด ส่วน RTO คือเป้าหมายในการฟื้นฟู ซึ่ง RTO ต้องสั้นกว่า MTPD เสมอ

วิธีตรวจสอบว่า MTPD ถูกต้องหรือไม่ คือการ ทำการทดสอบและซ้อมแผน BCP (Testing & Exercise) เช่น จำลองเหตุการณ์ระบบล่มจริง แล้วดูว่าองค์กรสามารถฟื้นฟูได้ภายในเวลาที่ตั้งไว้หรือไม่ หากไม่สามารถทำได้ ต้องกลับมาปรับปรุงแผน หรือเพิ่มทรัพยากรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

โดยทั่วไปเป็นหน้าที่แผนกที่ดูแลแต่ละกระบวนการเพื่อพิจารณา Operational Risk Management ฝ่ายที่ดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยง และผู้บริหารระดับสูงที่เข้าใจผลกระทบทางธุรกิจเพื่อดูภาพรวมของ Enterprise Risk Management ซึ่งจะทำให้ค่าที่ได้สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด

เริ่มจากการทำ BIA และประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น จากนั้นจึงออกแบบแผนฉุกเฉิน สำหรับกระบวนการสำคัญ

ควรทบทวนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งที่องค์กรมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ระบบ IT ใหม่ หรือโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน Supply Chain Risk Management

ไม่มีเครื่องมือคำนวณ MTPD หรือสูตรสำเร็จ แต่สามารถใช้ Framework จากมาตรฐาน ISO22301 และแนวทางของ InterRisk เพื่อคำนวณได้อย่างเหมาะสม

สามารถเริ่มจากการขอคำปรึกษาจาก InterRisk Asia เพื่อรับการประเมินเบื้องต้น (Pre-assessment) ซึ่งจะช่วยระบุ Critical Process และคำนวณค่า MTPD ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

MTPD คือ พื้นฐานของแผน BCP ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม ค้นหา MTPD กับ InterRisk Asia

MTPD คือ พื้นฐานของแผน BCP ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม และเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCM) ที่ช่วยให้องค์กรรู้ว่า “สามารถหยุดได้แค่ไหน และต้องฟื้นตัวเมื่อใด” เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดคิด

InterRisk Asia เป็นที่ปรึกษาด้าน Business Continuity Management (BCM) ภายใต้เครือ MS&AD จากประเทศญี่ปุ่น ที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) การจัดทำแผน BCP การอบรม BCP การซ้อมแผน BCP ไปจนถึงการให้คำปรึกษาแบบครบวงจรครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เราช่วยองค์กรวิเคราะห์และกำหนดค่า RTO, RPO, MTPD ที่เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้แม้ในสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุด

บริการของเรา
Business Continuity Consulting
การให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาระบบ BCM ผ่านรูปแบบการดำเนินงานแบบครบวงจร พร้อมต่อยอดสู่มาตรฐาน ISO 22301
Click Here
Business Continuity Training
การฝึกอบรมแบบปรับแต่งเฉพาะสำหรับผู้บริหารและพนักงานเพื่อสร้างความตระหนักรู้และพัฒนาทักษะด้าน BCMS
Click Here
Business Impact Analysis
การวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบจากการหยุดชะงัก เพื่อวางแผนกลยุทธ์สำหรับการจัดทำแผน BCP
Click Here
Business Continuity Plan Exercise
การซ้อมแผน BCP เพื่อทดสอบและพัฒนาความพร้อมและการตอบสนองขององค์กร
Click Here
เหตุผลที่เลือกเรา

ทีมที่ปรึกษามีประสบการณ์ด้าน BCMS โดยตรง

การออกแบบแผนที่ปรับตามบริบทของแต่ละธุรกิจ

โซลูชันที่ใช้ได้จริง ครบวงจร และพร้อมดำเนินการ

ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นใจ หรือธุรกิจ SMEs ที่ต้องการวางรากฐาน InterRisk พร้อมช่วยคุณสร้างแผน BCP ที่ครบวงจร เพื่อ Turning Risks To Resilience ไปด้วยกัน

แชร์

Let us help you ensure business continuity

Talk to InterRisk and take the first step toward a safer, risk-free business