วิธีจัดการระบบ BCMS ให้สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวทางระดับสากล

ปัจจุบัน องค์กรจำนวนมากให้ความสำคัญกับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity) มากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น เช่น สงครามการค้า ภัยธรรมชาติ และเหตุการณ์อื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เพื่อให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรควรจัดแนวระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCMS) ให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติและมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ

ในบทความนี้ เราจะมาดูแนวทางการจัดการระบบ BCMS ของคุณให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล พร้อมทั้งเสริมสร้างประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของระบบให้ดียิ่งขึ้น

แนวทางปฏิบัติและมาตรฐานสากลสำหรับระบบ BCMS คืออะไร?

มีหลากหลายแนวทางปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลสำหรับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity) การจัดการ BCMS ของคุณให้สอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มาตรฐานและแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ได้แก่

ISO 22301:2019 Security and resilience - Business continuity management systems

มาตรฐานสากลสำหรับระบบ BCMS ซึ่งมีกรอบการทำงานในการเสริมสร้างความยืดหยุ่น ลดเวลาการหยุดชะงักหรือหยุดการทำงาน และความสามารถในการฟื้นตัวขององค์กร

Business Continuity Institute (BCI) - Good Practice Guidelines

แนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการดำเนินระบบ BCMS อย่างมีประสิทธิภาพ

NFPA 16000:2024 - Standard for Emergency, Continuity, and Crisis Management

มาตรฐานของสหรัฐอเมริกาที่กำหนดแนวทางเกี่ยวกับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ สภาวะฉุกเฉิน และการจัดการในสภาวะวิกฤต

ISO 31000:2018 Risk Management

การบริหารความเสี่ยงที่ช่วยเสริมการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจโดยการระบุหาความเสี่ยงที่เป็นภัยคุกคามและบรรเทาภัยที่อาจเกิดขึ้น

วิธีจัดการระบบ BCMS

แนวปฏิบัติระดับสากลนั้นให้ความสำคัญกับแนวทางการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจที่อิงตามความเสี่ยง ซึ่งหมายถึงการระบุความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ และดำเนินมาตรการควบคุมและจัดการเพื่อลดผลกระทบเหล่านั้น

ขั้นตอนสำคัญในการดำเนินตามแนวทางปฏิบัติเหล่านี้

วิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (BIA) เพื่อระบุฟังก์ชันธุรกิจที่สำคัญและระยะเวลาหยุดชะงักที่ยอมรับได้

ดำเนินการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคาม เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ ความล้มเหลวของห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) และภัยธรรมชาติ

จัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plans) เพื่อรับมือกับเหตุการณ์หยุดชะงัก พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบและฝึกซ้อมแผนเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและปรับแก้ให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติจริง

ผนวกระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCMS) เข้ากับกลยุทธ์ขององค์กร

ระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCMS) ที่ประสบความสำเร็จไม่ควรเป็นระบบที่แยกออกมา แต่ควรอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรและสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรด้วย

สร้างวัฒนธรรมความยืดหยุ่นในองค์กรจากบนลงล่าง (Top-Down) โดยให้การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจเป็นความเรื่องของทุกคนในองค์กร

ประโยชน์ของการปรับปรุงแนวทางการจัดการในระบบ BCMS

ลดระยะเวลาการหยุดชะงัก

ลดการหยุดชะงักให้เหลือน้อยที่สุดและกลับมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

เสริมสร้างความยืดหยุ่น

เสริมสร้างความสามารถในการรับมือและฟื้นตัวจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

ลดค่าใช้จ่าย

ลงทุนในการเตรียมความพร้อม แทนที่จะลงทุนในการรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์

การปรับระบบ BCMS ของคุณให้สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติระดับสากล จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ความต่อเนื่องในการดำเนินงาน และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในช่วงเวลาวิกฤต ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ผสานการบริหารความเสี่ยง ทดสอบและฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการ รวมถึงปลูกฝังวัฒนธรรมในองค์กรของคุณให้มีศักยภาพในการรับมือกับสถานการณ์หยุดชะงักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ ?

หากคุณต้องการปรับระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCMS) ของคุณให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 22301 และแนวปฏิบัติระดับสากล ติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลการบริการที่ปรึกษา เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

แชร์

Let us help you ensure business continuity

Talk to InterRisk and take the first step toward a safer, risk-free business