ข้อมูลทางสถิติจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่าหนึ่งในภัยพิบัติสาธารณะที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในประเทศไทยนั้นมีสาเหตุหลักมาจากไฟไหม้หญ้าและการเผาขยะ (704 กรณีในปี 2023) ตามมาด้วยไฟฟ้าลัดวงจร (142 กรณีในปีพ.ศ. 2023) ดังแผนภาพที่ 1 (ข้อมูลในแผนภาพด้านล่างแสดงข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 – เดือนมีนาคม 2023)
ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดเหตุเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรจะเป็นรองจากสาเหตุอื่น ๆ ไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย แต่ผลที่ตามมาของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นความเสียหายร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อทั้งทรัพย์สินและชีวิต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดขึ้นเมื่อไฟฟ้าพบทางลัดรอบเส้นทางดั้งเดิมในวงจร สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อสายไฟสองเส้นที่มีแรงดันไฟฟ้าต่างกันมาสัมผัสกัน หรือตัวนำไฟฟ้าสัมผัสกับพื้นดิน ไฟฟ้าลัดวงจรอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น ทำให้สายไฟร้อนเกินไป และละลาย ทำให้เกิดประกายไฟเมื่อมีกระแสไฟกระโดดระหว่างสายไฟ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เกิดการจุดติดไฟกับวัตถุไวไฟ วัตถุติดไฟได้ที่อยู่ใกล้เคียง และก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนทั่วไป ได้แก่ พัดลมไฟฟ้า ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสาเหตุของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้เนื่องจากการใช้งานมากเกินไปหรือการชำรุด
ในสภาพแวดล้อมโดยรอบมีความเสี่ยงหลายประการที่อาจนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป ไฟฟ้าลัดวงจรอาจเกิดได้จากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่
การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างไม่เหมาะสมส่งผลให้ความเสี่ยงการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บอุปกรณ์ในสถานที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้งานอุปกรณ์เป็นระยะเวลานานเกินไป หรือการโอเวอร์โหลดในวงจรไฟฟ้า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะความร้อนสูง ที่สร้างความเสียหายและทำให้ฉนวนในวงจรเสียหาย ส่งผลให้เส้นทางวงจรทำงานผิดปกติ นำไปสู่การเกิดการไฟฟ้าลัดวงจร อันเป็นสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
ไฟฟ้าลัดวงจรสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะสถานที่ใดหรือเวลาใดก็ตาม โดยวิธีการลดความเสี่ยงการเกิดเหตุเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรมีดังนี้
ตรวจสอบปลั๊กไฟก่อนใช้งาน
ปลั๊กไฟเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน และจัดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ควรตรวจสอบปลั๊กไฟทุกครั้งก่อนใช้งาน หากมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเสียหาย ไฟไหม้ หรือประกายไฟเมื่อเสียบปลั๊ก ควรทำการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมปลั๊กไฟดังกล่าว
ไม่เสียบปลั๊กพ่วงเข้ากับปลั๊กพ่วง
ปลั๊กไฟแต่ละช่องของปลั๊กพ่วงสามารถรองรับกระแสไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ แต่ไม่เพียงพอที่จะสามารถรองรับกระแสไฟจำนวนมหาศาลเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ การใช้งานที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดภาวะโอเวอร์โหลด ตามมาด้วยภาวะความร้อนสูง และนำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ในที่สุด
ติดตั้งเบรกเกอร์
เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินที่อาจส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ควรติดตั้งเบรกเกอร์และบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีการตัดไฟทั้งโดยอัตโนมัติและแบบแมนนวลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานรับรอง
ในการผลิตนั้นมีการกำหนดมาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ท้องตลาด การใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานสามารถรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงวัสดุของสินค้าได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบ เช่น การทนไฟ การตัดกระแสไฟเกิน สามารถลดความเสี่ยงด้านเพลิงลุกลามและความเสียหายอื่น ๆ ได้
การป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรของพัดลมไฟฟ้า
ฝุ่นจากบริเวณโดยรอบอาจสะสมในมอเตอร์และขัดขวางการหมุนของใบพัดลม ส่งผลให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อต้านต่อการเสียดสี ก่อให้เกิดความร้อน การทำความสะอาดสม่ำเสมอสามารถช่วยขจัดฝุ่นและลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ซึ่งความร้อนจากมอเตอร์ยังเป็นสาเหตุของสายไฟเสื่อมสภาพ และนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ด้วยเช่นกัน จึงไม่ควรใช้พัดลมเกินขีดจำกัดกำลังไฟของปลั๊กไฟ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้พัดลมเพียงตัวเดียวเพื่อป้องกันความร้อนสะสมอันมีสาเหตุมาจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
แหล่งอ้างอิง
_______________________________________________________________________